อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท

Phu Phra Bat

ข้อมูลรายละเอียด

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทแห่งนี้ ปรากฏร่องรอยของกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว มีการพบภาพเขียนสีมากกว่า 30 แห่ง ยังพบการดัดแปลงโขดหินและเพิงผาธรรมชาติให้กลายเป็นศาสนสถานของผู้คนใน วัฒนธรรมทวารวดี ลพบุรี สืบต่อกันมาจนถึงวัฒนธรรมล้านช้าง ตามลำดับ ซึ่งร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของ มนุษย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ทางกรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ ป่าสงวนจำนวน 3,430 ไร่ จากกรมป่าไม้ โดยได้ประกาศขึ้นทะเบียนเขตโบราณสถานไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 98 ตอนที่ 63 เมื่อวันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2524 จากนั้นจึงได้มีการพัฒนาจนกลายเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทในที่สุด และในวันที่ 1 เมษายน 2547 ได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นเพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

ที่ตั้ง

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูพาน ครอบคลุมพื้นที่ 3,430 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีชื่อว่า “ป่าเขือน้ำ” บ้านติ้ว ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดระยะทางประมาณ 67 กม. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเปิดบริการเวลา 08.00-16.30 น.

พิกัด

Latitude : 17.731028579309058

Longitude : 102.35755134455857

โบราณสถานสามมิติ

หอนางอุสา

ลักษณะเป็นโขดหินคล้ายรูปดอกเห็ดหรือหอคอยขนาดเล็ก ตัวหอนางอุสาตั้งอยู่บนลานหินกว้าง ลักษณะประกอบด้วยหินขนาดใหญ่สองก้อนเรียงซ้อนทับกันในแนวดิ่ง หินก้อนบนกว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร และมีความสูง 10 เมตรจากพื้นลานหิน คาดว่าสภาพหินตั้งนี้เกิดจากธรรมชาติ แต่ภายหลังถูกดัดแปลงเพื่อเป็นที่พักของมนุษย์ในสมัยก่อน โดยแบ่งออกเป็นห้องมีลักษณะก่อหินเป็นรูปหน้าต่าง จากการสำรวจพบว่ามีใบเสมาหินเรียงอยู่โดยรอบจึงสันนิษฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นเขตพิธีกรรมทางศาสนามาก่อน

รูปแบบสามมิติ

รูปแบบสามมิติ

ถ้ำช้าง

เพิงหินที่มีภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นรูปเส้นหยัก และภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์รูปช้างอยู่ใกล้ๆกัน

หีบศพพ่อตา

เพิงหินมีการสกัดเพื่อเป็นที่นั่งวิปัสสนา

รูปแบบสามมิติ

รูปแบบสามมิติ

หีบศพเท้าบารส

เพิงหินมีการสกัดเพื่อเป็นที่นั่งวิปัสสนา

หีบศพนางอุสา

เพิงหินมีการสกัดเพื่อเป็นที่นั่งวิปัสสนา

รูปแบบสามมิติ

รูปแบบสามมิติ

วัดพ่อตา

เพิงหินที่มีการสกัดทำเป็นห้องประดิษฐานพระพุทธรูปรอบแกนหินที่ค้ำหลังคา ยังมีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์ ตามตำนานกล่าวว่าเป็นวัดที่พระยากงพานสร้างแข่งกับท้าวบารส ซึ่งสร้างวัดลูกเขย เมื่อครั้งที่ท้าวบารสมาสู่ขอนางอุสา

เมนู